เชี่ยวชาญการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์: กลยุทธ์และการควบคุมความเสี่ยง

สินค้าโภคภัณฑ์
4 สิงหาคม 2025
Commodities Expert

คุณได้ก้าวข้ามระดับพื้นฐานมาแล้ว และเข้าใจแล้วว่าอุปสงค์ อุปทาน และข่าวเศรษฐกิจมหภาคสามารถขับเคลื่อนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้อย่างไร ถึงเวลายกระดับความรู้ เพื่อเข้าสู่ตลาดในฐานะนักวางกลยุทธ์ ไม่ใช่เพียงผู้สังเกตการณ์ 

คู่มือนี้ออกแบบมาสำหรับนักเทรดที่พร้อมจะควบคุมทุกมิติของการเทรด โดยเชื่อมโยงกลยุทธ์เข้ากับโครงสร้าง และเปลี่ยนการลงมือทำให้สอดคล้องกับแนวคิด ไม่ว่าคุณจะเทรดทองคำ เงิน น้ำมัน หรือสินค้าหลากหลายประเภท คู่มือนี้จะมอบข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อช่วยให้คุณคิด วางแผน และเทรดอย่างมืออาชีพ 

 

สารบัญ 

  1. การวางแผนกลยุทธ์สำหรับการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ 

  1. กลยุทธ์การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ 

  1. กลยุทธ์ Momentum และ Breakout 

  1. การเทรดย้อนกลับหลังจากราคาพุ่งแรง 

  1. กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม 

  1. กับดักสภาพคล่องและการเบรกหลอก 

  1. การเปลี่ยนแปลงของจิตวิทยาฝูงชน 

  1. การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงราคาที่แกว่งอยู่ในกรอบ 

  1. พิมพ์เขียวการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ของคุณ 

  1. การบริหารความเสี่ยงระดับสูง 

  1. จิตวิทยาของนักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ 

  1. สรุปประเด็นสำคัญ 

 

การวางแผนกลยุทธ์สำหรับการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ 

การเทรดที่ดีทุกครั้งเริ่มต้นจากแผนที่ชัดเจน ก่อนที่คุณจะเข้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำหรือชอร์ตน้ำมัน CFD ให้ลองถามตัวเองว่า: 

  • แผนการตั้งต้นคืออะไร? 

  • เหตุผลคืออะไร: ปัจจัยพื้นฐาน เทคนิค หรือทั้งสองอย่าง? 

  • จุดเข้า จุดออก และความเสี่ยงสูงสุดที่ยอมรับได้อยู่ตรงไหน? 

หากไม่มีแผนที่ชัดเจน ต่อให้ไอเดียจะดีแค่ไหน ก็อาจกลายเป็นความผิดพลาดที่มีราคาแพงได้ 

“ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ความชัดเจนชนะความวุ่นวายเสมอ” 

 

กลยุทธ์การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ 

กลยุทธ์ Momentum และ Breakout 

สินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันและเงินมักจะพุ่งแรงหลังจากราคาสะสมตัวอยู่ในกรอบแคบๆ กลยุทธ์นี้ช่วยให้คุณจับจังหวะได้ก่อนที่ราคาจะวิ่งจบรอบ 

Screenshot 2568 07 18 At 17.40.56

วิธีใช้งาน: 

  • มองหาช่วงที่ราคาสะสมตัวบริเวณระดับสำคัญ (แนวรับ/แนวต้าน หรือรูปแบบสามเหลี่ยม) 

  • รอให้มีปัจจัยกระตุ้นแรง ๆ เช่น การประชุม OPEC การประกาศ CPI หรือเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ 

  • มองหาการเบรกที่มีปริมาณการซื้อขาย (volume) หนุน และรอดูจังหวะย่อตัวกลับมาเทสต์แนวเดิม 

ตัวอย่าง: 
ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุ $85 หลังมีรายงานปริมาณสต็อกน้ำมันลดลงแบบเหนือความคาดหมาย ปริมาณการซื้อขายพุ่งขึ้น และการปิดแท่งเทียนวันเหนือระดับนี้ยืนยันว่าเกิด breakout momentum แล้ว 

ทำไมกลยุทธ์นี้ถึงเป็นที่นิยม: 
Momentum มักจะเร่งตัวในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวสนับสนุนตรงกับโซนเบรกทางเทคนิค 

ตอนนี้คุณจับจังหวะเร่งตัวได้แล้ว แล้วถ้าราคาย่อตัวกลับมาจะทำยังไงต่อ? 

 

การเทรดย้อนกลับหลังจากราคาพุ่งแรง 

หลังจากมีข่าวใหญ่ ตลาดมักจะตอบสนองเกินจริง แทนที่จะไล่ราคา เราควรรอ 

Screenshot 2568 07 18 At 17.43.03

แนวทางการเทรดที่เป็นไปได้: 

  • ระบุจุดที่ราคาพุ่งจากข่าว เช่น ราคาทองพุ่งเพราะดอลลาร์อ่อน 

  • รอให้ราคาย่อลงมาที่โซนสำคัญ เช่น แนวรับก่อนหน้า หรือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (เช่น EMA 20 วัน) 

  • มองหาสัญญาณยืนยัน เช่น bullish engulfing หรือ pin bar 

ตัวอย่าง: 
ราคาซิลเวอร์พุ่งขึ้นแตะ $29 หลังมีข่าวว่า Fed จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย จากนั้นย่อลงมาแถว ๆ $27.80 ใกล้แนวรับ แล้วเกิดแท่งเทียนกลับตัวแบบ bullish นี่แหละคือจุดเข้าที่น่าสนใจ 

ความอดทนช่วยเปลี่ยนความผันผวนให้กลายเป็นจังหวะเข้าอย่างแม่นยำ 

ต่อไป มาดูกันว่าจะเทรดตามเทรนด์ยังไง เมื่อ momentum เริ่มกลายเป็นเรื่องระยะยาว 

 

กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม 

จังหวะการเทรดที่ดีที่สุดมักจะอยู่กลางเทรนด์ ไม่ใช่ตอนต้นหรือตอนปลาย 

กลยุทธ์นี้ช่วยให้คุณเทรดไปตามทิศทางหลักของตลาด โดยไม่ฝืนเข้าซื้อขายในจุดที่ไม่เหมาะสม 

Screenshot 2568 07 18 At 17.45.02

แนวทางที่เป็นไปได้: 

  • ใช้เส้น EMA 20 และ 50 วัน เพื่อยืนยันทิศทางของเทรนด์ 

  • มองหาจังหวะย่อตัว (pullback) พร้อมกับสัญญาณยืนยันจากพฤติกรรมราคา 

  • หลีกเลี่ยงการเทรดสวนเทรนด์ เว้นแต่จะมีสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน 

มุมมองจากปัจจัยพื้นฐาน: 
หากตลาดคาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น และผลตอบแทนที่แท้จริง (real yield) กำลังลดลง แนวโน้มของราคาทองมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ ดังนั้น การซื้อเมื่อราคาย่อลง (buy the dip) จะมีความเหมาะสมกว่าการพยายามเทรดสวนเทรนด์ในจุดสูงสุด 

“แนวโน้มคือเพื่อนของคุณ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิด” 

แต่อย่าลืมว่า: ไม่ใช่การเบรกเอาท์ทุกครั้งจะเป็นของจริง บางครั้งก็เป็นกับดักของตลาดเท่านั้น 

 

กับดักสภาพคล่องและการเบรกหลอก 

ทองคำทะลุแนวต้าน $2,400 ทำให้เทรดเดอร์รายย่อยแห่เข้าเทรด แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมากลับร่วงลงทันที เกิดอะไรขึ้น? 

นี่คือกับดักสภาพคล่อง (liquidity trap) 

Screenshot 2568 07 18 At 17.47.26

สัญญาณที่ควรจับตา: 

  • การเบรกเอาท์ที่ไม่มีปริมาณซื้อขาย (volume) รองรับ 

  • ข่าวหรือปัจจัยพื้นฐานไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของราคา 

  • ราคาถูกปฏิเสธและกลับทิศทางอย่างรวดเร็ว 

เคล็ดลับ: 
ใช้กรอบเวลาสั้น ๆ เพื่อดูการเบรกเอาท์หลอก เช่น แท่งเทียนที่มีไส้ยาว (rejection wicks) และราคาที่ไม่สามารถยืนเหนือจุดสูงใหม่ได้ 

ตัวอย่าง: 
ราคาน้ำมันเบรนต์ทะลุ $90 แต่ข้อมูลคลังน้ำมันในสหรัฐกลับไม่สนับสนุนแนวโน้มดังกล่าว ราคาไหลย้อนกลับและหลุด $88 นี่คือสัญญาณว่าตกหลุมกับดักแน่นอน 

อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะราคาทะลุแนวต้านเสมอไป ควรตรวจสอบ "เบื้องหลังของการเคลื่อนไหว" เสมอ 

 

การเปลี่ยนแปลงของจิตวิทยาฝูงชน 

เมื่อทุกคนกลายเป็นขาขึ้น (bullish) ลองถามตัวเองว่า "แล้วยังมีใครเหลือให้ซื้ออีก?" 

กลยุทธ์นี้เน้นการจับจังหวะสุดโต่งของตลาด และใช้ประโยชน์จากจุดกลับตัว 

Screenshot 2568 07 18 At 17.51.25

วิธีจับสัญญาณตลาดที่เริ่มสุดโต่ง: 

  • ติดตามเครื่องมือวัด Sentiment เช่น รายงาน COT หรือข้อมูลการถือครองของนักลงทุนรายย่อย 

  • สังเกต Divergence ระหว่างราคาและโมเมนตัม (เช่น ราคาทองเพิ่มขึ้น แต่ RSI ลดลง) 

  • มองหาสัญญาณกลับทิศในโซนสำคัญของราคา 

ตัวอย่าง: 
นักลงทุนรายย่อยถือ Long Silver มากถึง 90% ขณะที่ RSI เริ่มเกิด divergence 
ราคาซิลเวอร์หลุดระดับ $28 แสดงให้เห็นถึงการคลายตัวของ Sentiment ที่กำลังดำเนินอยู่ 

“เมื่อฝูงชนโน้มเอียงไปสุดทาง ตลาดมักจะโยงกลับเสมอ” 

แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกตลาดที่กำลังเป็นเทรนด์แรงๆ บางจุดนิ่งเงียบ แต่อาจให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่า 

 

การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงราคาที่แกว่งอยู่ในกรอบ 

ตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ (Sideways) ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ แต่คือโอกาสเชิงกลยุทธ์ 

ตลาดไม่ได้ “เป็นเทรนด์” ตลอดเวลา บทนี้จะแนะนำวิธีใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่ราคาวิ่งอยู่ในกรอบแนวนอนระหว่างแนวรับและแนวต้านอย่างชัดเจน 

Screenshot 2568 07 18 At 17.53.11

การตั้งค่า: 

  • ระบุกรอบราคาด้านข้างที่ชัดเจน (เช่น ราคาทองคำระหว่าง $2,000 ถึง $2,050) 

  • มองหาการที่ราคาปฏิเสธแนวต้าน และมีการเด้งกลับจากแนวรับ 

  • ใช้จุดตัดขาดทุนที่แคบ และตั้งเป้าหมายทำกำไรระยะสั้น 

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: 

  • ช่วงที่ไม่มีข่าวสารสำคัญออกมา 

  • อยู่ในช่วงรอการประกาศนโยบายสำคัญ 

  • หลังจากที่เกิดเทรนด์ยาว และราคาเริ่มหยุดนิ่ง 

ภาวะราคาสวิงในกรอบคือโอกาส หากคุณเทรดตามขอบเขต ไม่ใช่หลงไปกับสัญญาณรบกวน 

ต่อไปเราจะรวบรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน 

 

พิมพ์เขียวการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ของคุณ 

ทุกการเทรดต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน เขียนแผนออกมาก่อนลงมือจริง 

หัวข้อนี้จะพาคุณไปทีละขั้นตอนว่าควรจัดโครงสร้างการเทรดตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดออกอย่างไร 

ทุกการเทรดควรถูกวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ 

แผนการเทรดควรรวมถึง: 

  • Setup (จุดตั้งต้น): รูปแบบหรือสัญญาณที่คุณมองเห็น 

  • Trigger (สัญญาณเข้า): แท่งเทียนยืนยัน หรือสัญญาณจากปริมาณการซื้อขาย 

  • Entry (จุดเข้า): ราคาที่คุณต้องการเข้าเทรด 

  • Stop (จุดตัดขาดทุน): ระดับราคาที่แนวคิดของคุณไม่ถูกต้องอีกต่อไป 

  • Target (เป้าหมาย): ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของกราฟหรืออัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทน (RRR) 

  • RRR: ตั้งเป้าให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงอย่างน้อย 2:1 

“วางแผนก่อนเทรด เทรดตามแผน บันทึกผลลัพธ์ แล้วเรียนรู้จากมัน” 

แต่ต่อให้มีกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน ก็ไม่มีความหมายเลยหากคุณไม่ควบคุมความเสี่ยง 

 

การบริหารความเสี่ยงระดับสูง 

เทรดเดอร์มืออาชีพรู้ข้อเท็จจริงข้อนี้ดีว่า “เงินทุนคือสิ่งสำคัญที่สุด” 

หัวข้อนี้จะเน้นเรื่องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจทำร้ายบัญชีของคุณ คุณควบคุมตลาดไม่ได้ แต่คุณควบคุมปริมาณความเสี่ยงได้ 

 

กฎทองในการบริหารความเสี่ยง: 

  • เสี่ยงแค่ 1-2% ของพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้ง 

  • ปรับขนาดไม้ให้สอดคล้องกับความผันผวนของแต่ละสินทรัพย์ เช่น ทองกับน้ำมันมีลักษณะไม่เหมือนกัน 

  • ใช้ค่า ATR (Average True Range) เพื่อกำหนดจุดตัดขาดทุนอย่างเหมาะสม 

  • ลดขนาดไม้ลงเมื่อคุณเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ 

“การปกป้องด้านขาลง นี่แหละคือความได้เปรียบที่แท้จริง” 

สุดท้าย มาสู่สนามรบที่แท้จริง นั่นคือ "ทัศนคติของคุณเอง" 

 

จิตวิทยาของนักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ 

ตลาดจะทดสอบความอดทน ความมั่นใจ และวินัยของคุณเสมอ 

ทักษะด้านเทคนิคอาจสำคัญก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ทัศนคติ” ส่วนนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีรักษาความนิ่ง ความมั่นคง และไม่หลุดโฟกัสแม้ต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน 

เคล็ดลับเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจ: 

  • อย่าทุ่มซ้ำจากอารมณ์ 

  • หยุดพักถ้าแพ้ติดกันหลายครั้ง 

  • เขียนบันทึกอารมณ์ในการเทรดไว้เสมอ 

  • จำไว้ว่า: ความมั่นใจที่แท้จริงมาจากความชัดเจน ไม่ใช่ความดื้อรั้น 

อยากศึกษาลึกกว่านี้ไหม? 
ดาวน์โหลด eBook Trading Psychology ได้ที่ พื้นที่ลูกค้า 

“ทัศนคติที่ดี ชนะเกมระยะยาว” 

 

สรุปประเด็นสำคัญ 

การเป็นมือโปรในการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ใช่เรื่องของการเดาถูกตลอดเวลา 
แต่คือการมองการณ์ไกล วางแผนบริหารความเสี่ยง และเล่นเกมระยะยาวอย่างมีระบบ 

รู้แผนก่อนเทรด เชื่อมโยงกับปัจจัยมหภาค เทรดอย่างมีโครงสร้าง รู้จุดแข็งของตัวเอง และควบคุมอารมณ์ให้ได้ 

พร้อมเทรดอย่างมั่นใจแล้วหรือยัง? 

สำรวจสินค้าทองคำ น้ำมัน เงิน และอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ ที่นี่ 

 

คำชี้แจง 

ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอซื้อขาย หรือคำเชิญชวนให้ทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูลนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้อ่านแต่ละคนหรือความต้องการเฉพาะ และไม่ควรถูกมองว่าเป็นคำแนะนำเฉพาะบุคคลข้อมูลผลการดำเนินงานในอดีตไม่ใช่ตัวชี้วัดที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต D Prime และบริษัทในเครือไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของข้อมูลที่นำเสนอ และไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือการขาดทุนใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลนี้หรือการตัดสินใจลงทุนที่อิงจากข้อมูลนี้ 

โปรดอย่าใช้เนื้อหาข้างต้นแทนการตัดสินใจโดยอิสระของคุณเอง ควรพิจารณาความเหมาะสมของข้อมูลนี้กับสถานการณ์ส่วนบุคคลของคุณก่อนตัดสินใจลงทุน ตลาดมีความเสี่ยง และการลงทุนควรทำด้วยความระมัดระวัง